ZRYTHM (โปรแกรมที่ทำงานกับไฟล์เสียง เน้นการทำงานอัตโนมัติ ใช้งานง่าย)

โปรแกรม ZRYTHM

ZRYTHM (WorkStation สำหรับทำงานกับไฟล์เสียง เน้นการทำงานอัตโนมัติ ใช้งานง่าย) : โปรแกรม ZRYTHM เป็นโปรแกรมประเภท Digital Audio Workstation (DAW) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทั้งมืออาชีพ และผู้เริ่มต้น สามารถสร้างสรรค์งานดนตรีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และง่ายดาย โดยเน้นการทำงานแบบอัตโนมัติ และ ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ (UI) ที่ใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผู้ใช้สามารถจัดการองค์ประกอบต่าง ๆ ของเพลง เช่น การเลือก, ย้าย, ปรับขนาด, คัดลอก, ลิงก์, ลูป, ลบ หรือแยกวัตถุเสียงได้ด้วยเครื่องมือเดียว หรือจะขยายความสามารถด้วยเครื่องมือเฉพาะทางเพิ่มเติมก็ได้ มีระบบ Snapping ที่ช่วยให้การจัดเรียงเสียงในแต่ละแทร็กเป็นไปอย่างแม่นยำ

หนึ่งในจุดเด่นของ ZRYTHM คือความสามารถในการทำ Automation ได้อย่างอิสระ ผู้ใช้สามารถควบคุมพารามิเตอร์ต่าง ๆ ด้วยเส้นตรง, รัมป์ และเส้นโค้ง หรือใช้ LFO และ Envelope เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบไดนามิกในเสียง นอกจากนี้ ยังมีระบบมิกซ์เสียงที่ครบครัน เช่น การฟังเสียงในตัดต่อแล้ว, การจัดกลุ่มสัญญาณ, การใช้ FX Tracks และ MIDI Effects, การส่งสัญญาณแบบ Pre / Post-Fader และการกำหนดเส้นทางสัญญาณอย่างอิสระระหว่างแทร็กต่าง ๆ

ZRYTHM ยังมีระบบช่วยสร้างคอร์ดที่ใช้งานง่าย ผู้ใช้สามารถสร้างคอร์ดจากสเกลใน Chord Pad ทดลองฟังหรือกลับคอร์ดได้ทันที รวมถึงบันทึกคอร์ดที่ชอบไว้เป็น Preset และจัดการ Progression ของคอร์ดใน Chord Track ได้อย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งมีการเน้นคอร์ดใน Piano Roll เพื่อช่วยในการแต่งเพลง

ในด้าน ปลั๊กอิน (Plug-in) ZRYTHM สนับสนุนรูปแบบหลักทั้งหมด เช่น LV2, VST2, VST3, AU, CLAP และ JSFX รวมถึง Soundfonts แบบ SFZ และ SF2 โดยมีระบบ Sandboxing ผ่าน Carla เพื่อความปลอดภัย และเสถียรภาพของระบบ

ไทม์ไลน์ของโปรแกรมมีความยืดหยุ่นสูง ผู้ใช้สามารถสร้างเลเยอร์หลายชั้นได้ในแทร็กเดียวกัน ใช้ Track Lanes เพื่อแยกองค์ประกอบต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน สามารถ Bounce เสียงเป็นไฟล์ Audio ได้อย่างรวดเร็ว รองรับการนำเข้า และส่งออกไฟล์เสียง และ MIDI หลากหลายรูปแบบ รวมถึงการยืด หรือวนลูปช่วงเสียงตามต้องการ และเลือกประเภทแทร็กให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ZRYTHM ยังมีระบบสำรองข้อมูลอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ใช้ไม่สูญเสียงานที่ทำไป สามารถย้อนกลับเกือบทุกการกระทำ รวมถึงบันทึกประวัติการ Undo ไปพร้อมกับโปรเจกต์ได้อีกด้วย

โปรแกรมเปิดเพลง ZRYTHM รองรับหลาย ระบบปฏิบัติการ (OS) ทั้ง วินโดวส์ (Windows), แมคโอเอส (macOS) และ ลีนุกซ์ (Linux) และสามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างยืดหยุ่น

คุณสมบัติ และความสามารถของ ZRYTHM

• มีเครื่องมือสำหรับ
  • การวนซ้ำ
  • โคลน
  • เชื่อมโยง
  • ยืด
• ระบบ Snapping ช่วยให้การจัดเรียงเสียงในแต่ละแทร็กเป็นไปอย่างแม่นยำ
• มีเลน (Lanes) ได้หลายช่องต่อหนึ่งแทร็ก (Track)
• สามารถบาวซ์ (Bounce) ทุกสิ่งให้กลายเป็นไฟล์เสียง (Audio) หรือ MIDI
• เปียโนโรล (Piano Roll) และเครื่องมือแก้ไข MIDI ที่รองรับการผสานรวมคอร์ด (Chord Integration)
• โหมดกลอง (Drum mode) และตัวแก้ไขความดัง (Velocity Editor) แบบ Lollipop
• เครื่องมือแก้ไขเสียง (Audio editor) ที่สามารถแก้ไขพาร์ท (Part Editing) ได้
• ปรับ Gain/Fades) ได้
• มีตัวแสดงผลอีเวนต์ (Event viewers)
• มีเครื่องมือสำหรับสามารถแก้ไขพารามิเตอร์ของวัตถุต่าง ๆ ได้
• ฟังก์ชันอัตโนมัติที่ปรับแต่งได้อย่างยืดหยุ่น
• หน้าต่างการทำงานสามารถแยกส่วน ทำให้สามารถตั้งค่าการทำงานแบบหลายหน้าจอได้อย่างสะดวก
• รองรับ
  • ปลั๊กอิน
    • LV2
    • CLAP
    • VST2
    • VST3
    • AU
    • LADSPA
    • DSSI
  • ซาวด์ฟอนต์
    • SFZ/SF2 SoundFonts
    • ไฟล์ MIDI ชนิด Type 0 และ 1
    • รูปแบบไฟล์เสียงเกือบทุกชนิด
• แป้นคอร์ด (Chord pad) พร้อมพรีเซ็ตในตัว และที่ผู้ใช้กำหนดเอง
• สามารถสร้างคอร์ดจากสเกลได้
• สำรองข้อมูลโปรเจกต์อัตโนมัติ 
• การกระทำของผู้ใช้ที่สามารถยกเลิกได้ พร้อมเก็บประวัติการยกเลิกเพื่อย้อนค่าการทำงาน
• DSP ที่ได้รับการปรับแต่งด้วย SIMD
• ทำงานได้ข้ามแพลตฟอร์ม

เงื่อนไขการใช้งาน โปรแกรม ZRYTHM

โปรแกรม ZRYTHM เป็นซอฟต์แวร์ ฟรี (Free) ที่พัฒนาแบบโอเพ่นซอร์ส แต่ด้วยความที่มีอยู่หลายองค์ประกอบ ซึ่งบางส่วนก็ฟรีอย่างอิสระ แต่บางส่วนแม้จะฟรีแต่ก็ห้ามนำไปดัดแปลง อย่างไรก็ตาม หากต้องการใช้งานแบบเต็มรูปแบบ ก็สามารถจ่ายเงินซื้อได้ โดยมีราคาดังนี้

หากต้องการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อกับทางผู้พัฒนาโปรแกรมนี้ได้ผ่านทางช่องทางเว็บไซต์ (Website) : https://www.zrythm.org/en/index.html (ภาษาอังกฤษ) ได้เลย

คำบรรยายภาษาอังกฤษ (English Descriptions)

ZRYTHM is a Digital Audio Workstation (DAW) designed to empower both professionals and beginners to create music efficiently and intuitively. It emphasizes automation and features a user interface that feels natural and easy to navigate. Users can manage various musical elements—such as selecting, moving, resizing, copying, linking, looping, deleting, or splitting audio objects using a single versatile tool, with the option to expand functionality through specialized tools. The snapping system ensures precise alignment of sounds across tracks, making arrangement smooth and accurate.